Last updated: 21 ม.ค. 2565 | 2838 จำนวนผู้เข้าชม |
คลองลัดโพธิ์ ดับวิกฤตน้ำท่วมกรุง
ความเป็นมา : ในอดีตบริเวณคุ้งน้ำเจ้าพระยา ที่ตำบลบางกระเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ มีพื้นที่กว่า 12,000 ไร่ หน้าที่สำคัญของคลองลัดโพธิ์เมื่อครั้งอดีต เคยเป็นเส้นทางสัญจรทางเรือ ใช้เป็นแหล่งน้ำสำหรับการเพาะปลูก รวมทั้งทำหน้าที่ลัดน้ำออกสู่ทะเลอ่าวไทย กว้างเพียง 8-10 เมตร และยาว 600 เมตร แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมืองถูกพัฒนามากยิ่งขึ้น แนวคลองถูกถม เพื่อใช้ก่อสร้าง ทั้งบ้านจัดสรร โรงงานอุตสาหกรรม และถนน ขาดการดูแลรักษา คูคลองจึงตื้นเขินเหลือเพียงแค่ 1-2 เมตรเท่านั้น พื้นที่บริเวณนี้จึงถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทุกปี ในช่วงน้ำหลาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งฤดูที่มีน้ำท่วมครั้งใหญ่ในกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2538
หลักการ : พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงห่วงใยราษฎร ทรงมีพระราชดำริให้ศึกษาวิเคราะห์ แนวทางแก้ไขปัญหา และมีรับสั่งให้กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขุดลอกคูคลอง ให้มีความลึกเพิ่มขึ้นเป็น 7 เมตร และมีความกว้าง 80 เมตร เพื่อสามารถทำหน้าที่ระบายน้ำลงสู่ทะเลอ่าวไทย ได้สะดวกมากขึ้น
จากเดิมที่น้ำต้องไหลอ้อมพื้นที่ 18 กิโลเมตร นาน 5 ขั่วโมง เพราะพื้นที่นี้มีลักษณะเหมือนกะเพาะหมู ปัจจุบันเหลือเพียง 600 ใช้เวลาแค่ 10 นาทีเท่านั้น
ประตูระบายน้ำแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อควบคุมการไหลของน้ำ โดยมีการติดตั้งบานประตูระบายน้ำทั้งหมด 4 ช่อง แต่ละช่องมีความสูง 14 เมตร และมีความกว้าง 9 เมตร 55 เซนติเมตร ทำให้สามารถระบายน้ำได้มากถึงวันละ 40 ล้าน ลบ.ม. แล้วโครงการนี้ยังมีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำได้อีกด้วย ทรงมีพระราชดำริให้ใช้พลังงานน้ำ ที่ระบายผ่านคลองลัดโพธิ์ ทำให้เป็นพลังงานไฟฟ้าขึ้นมา โดยออกแบบเป็นกังหันพลังน้ำ ติดตั้งบริเวณประตูระบายน้ำ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
กังหันไฟฟ้าพลังน้ำไหลที่นี่มี 2 แบบ คือ แบบหมุนตามแนวแกน และแบบหมุนขวางการไหล โดยใช้ใบพัดหมุนตามแนวแกนมีเส้นผ่าศุนย์กลาง 2 เมตร และใบพัดแบบหมุนขวางการไหลมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร ยาว 2 เมตร 50 เซนติเมตร ที่ความเร็วน้ำไหล 2 เมตรต่อ 1 วินาที จะทำให้ได้กำลังไฟฟ้าสูงถึง 5.74 กิโลวัตต์ต่อวัน ซึ่งเพียงพอต่อการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้ทั้งโครงการ
เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าตั้งแต่โครงการนี้สร้างเสร็จ ก็ไม่เคยเกิดอุทกภัย น้ำท่วมอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ และพื้นที่กรุงเทพชั้นในอีกเลย
นับเป็นแสงแห่งพระบารมีที่จะส่องสว่างกลางใจปวงชนชาวไทยตราบนิรันดร