Last updated: 6 ก.ย. 2566 | 957 จำนวนผู้เข้าชม |
❝ การรักษาความแข็งแรงสมบูรณ์ของร่างกาย เป็นปัจจัยของเศรษฐกิจที่ดี และสังคมที่มั่นคง ❞
จากการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในท้องถิ่นทุรกันดาร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพบว่าราษฎรจำนวนมาก ขาดการดูแลรักษาในด้านสุขภาพอนามัย โครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน จึงได้ถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2510 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้จัดเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล เครื่องมือ เครื่องใช้ ตลอดจนยารักษาโรค ออกทำการตรวจรักษาราษฎรโดยไม่คิดค่ารักษา ในท้องถิ่นทุรกันดาร พื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีหน่วยแพทย์ทางราชการเข้าไปถึง และทรงพบอีกว่าราษฎรป่วยเป็นโรคฟันและโรคในช่องปากจำนวนมาก จึงทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ตั้งหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ประกอบด้วยทันตแพทย์ ทันตอนามัย รถยนต์ขนาดใหญ่ 1 คัน มีเก้าอี้ทำฟัน ตลอดจนเครื่องมือทำฟันครบชุด ออกทำการตรวจและรักษาโรคฟันให้แก่ราษฎร พร้อมกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่
ต่อมาได้มีการอบรมหมอหมู่บ้านตามพระราชดำริ ได้มีการคัดเลือกราษฎรอาสาสมัครตามหมู่บ้านต่างๆ มารับการอบรมหลักสูตรหมอหมู่บ้าน โดยเริ่มต้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2525 เพื่อให้ราษฎรที่ได้รับการอบรมแล้วกลับไปช่วยเหลือคนในท้องถิ่นของตน ซึ่งการอบรม จะเน้นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การเวชศาสตร์ การป้องกันอย่างง่าย การโภชนาการ โดยเฉพาะแม่และเด็ก การติดต่อกับเจ้าหน้าที่รักษาพยาบาลของรัฐ คือ สถานีอนามัยไปจนถึงโรงพยาบาล
ทั้งสองโครงการข้างต้น มีพื้นที่ครอบคลุมในภาคเหนือตอนบน 10 จังหวัด (เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ และพิษณุโลก)
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด (สกลนคร นครพนม อุดรธานี หนองคาย มุกดาหาร มหาสารคาม กาฬสินธุ์ เลย)
และในภาคใต้ 4 จังหวัด (นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา)
ในการเสด็จแปรพระราชฐานไปประทับแรมเพื่อเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ต่างๆ ทำให้โครงการพระราชดำริด้านการแพทย์ ได้ขยายขอบข่ายออกไปอย่างกว้างขวาง เพื่อให้ราษฎรได้มีสุขภาพอนามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป
นับเป็นแสงแห่งพระบารมี ที่ส่องสว่างกลางใจปวงชนชาวไทย ตราบนิรันดร์
หมายเหตุ : คลิปแอนิเมชั่นโครงการพระราชดำริ (ผลิต ๒๕๖๖) ชุดนี้ ผลิตขึ้นเพื่อน้อมถวายแด่พ่อหลวง "ในโอกาสครบ ๗ ปีวันคล้ายวันสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๖" อีกทั้ง เป็นการสร้างการรับรู้ให้กับเยาวชน และประชาชนโดยทั่วไปให้มากยิ่งๆ ขี้นไป
ขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนการผลิตคลิปนี้