อนิเมชั่น เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ตอน เกษตรกรยะลาปลูกกาแฟ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน

Last updated: 28 ส.ค. 2565  |  2072 จำนวนผู้เข้าชม  | 

อนิเมชั่น เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ตอน เกษตรกรยะลาปลูกกาแฟ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน

ขุมทรัพย์สมุนไพร เหนือเทือกเขาสันกาลาคีรี ตำนานเมล็ดพันธุ์สันติภาพสีทองคำ

ความเป็นมา : นับย้อนกลับไปกว่า 60 ปีมาแล้ว ชาวบ้านนิยมปลูกไร่กาแฟ ก่อนจะมีสวนทุเรียนและสวนยางพารา ตอนนั้นชาวบ้านหันไปปลูกยางพารากันเนื่องจากราคาจูงใจ แต่ในที่สุดก็ถึงทางตัน เมื่อรายได้จากการกรีดน้ำยางไม่ดีเหมือนแต่ก่อน กาแฟยะลาจึงได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจังอีกครั้ง ความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนจึงเกิดขึ้น เกษตรกรหันกลับมาหากาแฟพืชเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มรายได้

    โดยทาง กอ.รมน.ภาค 4 สน. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเทศบาลนครยะลา และกรมวิชาการเกษตร โดยศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา ตลอดจนภาคเอกชน ได้ร่วมจัดให้มีโครงการส่งเสริมการปลูกกาแฟทดแทนยางพารา ในระบบการปลูก พืชแบบผสมผสานตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยเริ่มตั้งแต่มอบต้นพันธุ์ส่งเสริมการปลูกและการดูแลรักษา ควบคู่กับการสร้างแบรนด์กาแฟคุณภาพ ที่มีอัตลักษณ์ของจังหวัดยะลา รวมทั้งมีการเชื่อมโยงการตลาดกับโรงงานแปรรูปกาแฟคั่ว มุ่งสู่การผลิตกาแฟคั่วคุณภาพแบบครบวงจร เพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกร สนับสนุนการท่องเที่ยว การค้าชายแดน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน และสร้างสรรค์ชุมชนสู่สันติสุข ทำให้สามารถแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อีกทางหนึ่ง

    ศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา ได้ทำการวิจัยพัฒนาเมล็ดกาแฟพันธุ์โรบัสต้า ตั้งแต่ พ.ศ.2555 ปรากฏว่ากาแฟโรบัสต้า ที่อำเภอธารโต จังหวัดยะลา เจริญเติบโตดีเหมาะสมสำหรับภูมิประเทศและภูมิอากาศ ให้ผลผลิตเฉลี่ยถึง 290 กิโลกรัมต่อไร่ ดังนั้นทางศูนย์จึงใช้พืชกาแฟเป็นพืชทางเลือกหนึ่งในการปลูกทดแทนยางพาราเสื่อมโทรม หากเกษตรกรมีสวนทุเรียนอยู่แล้ว ก็สามารถนำกาแฟไปปลูกภายใต้ร่มเงาระหว่างแถวทุเรียน กาแฟก็สามารถที่จะเติบโตได้ดี

 

 

    ในปี 2560 ได้มีการแจกต้นพันธุ์โรบัสต้าให้กับเกษตรในพื้นที่อำเภอธารโต อำเภอบังนังสะตา และอำเภอเบตง จำนวน 50,000 ต้น ในปี 2561 ได้มีโครงการ “ส่งต่อต้นพันธุ์ สร้างสรรค์ชุมชนสันติสุข” ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา อำเภอธารโต แจกต้นพันธุ์โรบัสต้าอีกจำนวน 20,000 ต้น

    กอ.รมน. ภาค 4 สน. ได้ขยายผลโครงการต่อเนื่อง ด้วยการนำเมล็ดพันธุ์กาแฟ จำนวน 100 กิโลกรัม ให้ศูนย์วิจัยพืชสวนยะลาเพาะพันธุ์ เพื่อแจกจ่ายแก่เกษตรกร ซึ่งในขณะนี้ สามารถเพาะพันธุ์ต้นกล้ากว่า 2 แสนต้น พร้อมให้คำแนะนำเพื่อให้เกษตรกรได้มีความเข้าใจขั้นตอนการปลูกกาแฟ และมีส่วนร่วม รู้สึกเป็นเจ้าของ ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาคน พัฒนางาน ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่การเสริมรายได้ แต่ยังหมายถึง "สันติสุข" ที่ทุกคนปรารถนา

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้